“มาสเตอร์แฟรนไชส์” ไพ่ตาย พาธุรกิจเลเวลอัพ!

สำหรับธุรกิจที่พร้อมขยายตลาดด้วยระบบแฟรนไชส์ในต่างประเทศ แม้กิจการจะมีความพร้อมภายในองค์กรแล้ว แต่เมื่อต้องการขยายออกไปสู่ตลาดนอกพื้นที่ ต้องทำการบ้านอย่างหนัก รวมทั้งศึกษาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจและแผนกลยุทธ์อย่างรอบด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้าหรือแฟรนไชส์ซีสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น และเติบโตได้

การให้สิทธิ์แฟรนไชส์มีข้อดีหลายประการ คือ เมื่อองค์กรมีความพร้อมในระดับหนึ่ง สามารถบริหารจัดการภายในได้ลงตัว  มีทีมงานพร้อม  และต้องการขยายช่องทางการตลาดด้วยระบบแฟรนไชส์ จะทำให้กิจการขยายได้รวดเร็ว  โดยให้สิทธิ์คนท้องถิ่นที่มีความชำนาญและมีข้อมูลท้องถิ่น ดำเนินการแทนองค์กรธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนและพนักงานของส่วนกลาง

ขออนุญาตพาย้อนกลับในงาน Thaifex  เมื่อวันที่ 29 พ.ค.- 2 มิ.ย. 2561 ของปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ากิจการร้านอาหารเครื่องดื่ม กาแฟ จำนวนไม่น้อย ประกาศตัวในงานว่ารับสมัคร “มาสเตอร์ แฟรนไชส์ (Master Franchises) ในต่างประเทศ”  โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ บริษัทในเครือCP  ก็นำ brand ธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม มาประกาศรับซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ในต่างแดน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แม้กระทั่งผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง CP Retailink ที่ขนสารพัดแบรนด์ อาทิ กาแฟมวลชน  Arrabiata Jungle, Duck Land , Slim& Sixpack มาเปิดตลาดหาคู่ค้าต่างชาติมาร่วมลงทุน

แม้กระทั่งช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา  “บางจาก” ก็ปล่อย brand อินทนิล ในรูปแบบมาสเตอร์แฟรนไชส์ ขายไปยังประเทศกัมพูชา ให้กับนักธุรกิจท้องถิ่นนำไปดำเนินการขยายตลาด ครั้งแรกภูมิภาค

หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ มาสเตอร์ แฟรนไชส์”  (Master Franchises) เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นรูปแบบการให้สิทธิ์แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่ได้รับอนุญาตให้ไปประกอบการธุรกิจในประเทศใดๆ ที่ตกลงกันไว้  โดยสามารถให้สิทธิ์แฟรนไชส์ต่อไปกับผู้อื่นในประเทศนั้นๆ อีกได้ด้วย หรือจะดำเนินการขยายสาขาด้วยตัวเองก็ย่อมได้  โดยผู้ซื้อสิทธิ์จะมีสิทธิและหน้าที่คล้ายเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ แต่ก็เฉพาะในพื้นที่ประเทศที่กำหนดไว้เท่านั้น

ในกรณีของ 7-11 กิจการในเครือซีพี ก็ซื้อสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ จากบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกา มาดำเนินการต่อในเมืองไทยได้ประเทศเดียวเท่านั้น  โดยยังให้สิทธิ์แบบ Area Franchises กับนักท้องถิ่นในบางจังหวัด  (ให้สิทธิ์แบบเหมาพื้นที่ในเขตจังหวัด) หรือขายให้กับนักลงทุนรายย่อยเป็นรายสาขา (Single Unit  Franchise) ก็ย่อมได้

ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน  กิจการบางอย่างที่ดูแล้วไม่น่าจะขยายเป็นแฟรนไชส์ได้  ก็สามารถขยายกิจการได้เป็นอย่างดี  เช่น ในคอนโดฯ  หรือหมู่บ้านจะต้องมีนิติบุคคลดูแลหมู่บ้าน ก็มีกิจการเปิดแฟรนไชส์รับบริหารนิติบุคคลหมู่บ้าน เปิดกันเป็นเรื่องเป็นราว  มีขนาดกิจการระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเลยทีเดียว

ย้อนกับมาดูกิจการของเรากันสักหน่อย ถ้าสำรวจแล้วสามารถขยายตลาดต่อไปได้ในต่างพื้นที่ ก็อาจลองศึกษาวิถีแฟรนไชส์ให้เข้าใจถ่องแท้ ธุรกิจยุคนี้โชคดีที่มีที่ปรึกษาด้านแฟรนไชส์เก่งๆ และเครื่องมือพิเศษในการบริหารงานขยายสาขาที่ช่วยให้ง่ายขึ้น

การบุกตลาดต่างประเทศโดยระบบแฟรนไชส์จะทำให้กิจการธรรมดาที่เคยเล็กๆ ในประเทศไทย  สามารถมีโอกาสไปสยายธงไทยในต่างแดนได้ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น  ต้องตั้งทรงธุรกิจให้ดี วางกลไกแฟรนไชส์ให้เรียบร้อย  ศึกษาข้อกฎหมายประเทศปลายทางในเรื่องการจดตราสินค้า กฏหมายแฟรนไชส์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และวางแผนอย่างรอบคอบก่อนบุกตลาดต่างประเทศ

กลยุทธ์ มาสเตอร์ แฟรนไชส์  อาจไม่ได้เหมาะกับทุกกลุ่มกิจการอาจจะต้องศึกษาได้ดี และแม้ธุรกิจในระบบแฟรนไชส์จะประสบความสำเร็จในประเทศ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีความสำเร็จในประเทศอื่นด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแฟรนไชส์ซีในแต่ละประเทศด้วย

 

บทความโดย

อาจารย์ จิรภัทร สำเภาจันทร์
– กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท็อป บิสสิเนส คอนซัลแทนท์ แอนด์ แมนเนจเมนท์จำกัด
– ผู้บุกเบิกแฟรนไชส์ร้านสารพัดบริการรายแรกของไทย
– ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน กลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ ค้าปลีก

TOP BUSINESS
Credit : สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ / https://www.flathailand.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

สอบถามข้อมูล