Disrupt ธุรกิจให้ไว! ไม่อยากดับ ต้องปรับตัว

ช่วงนี้หน่วยงานเศรษฐกิจของไทยอย่างภาครัฐได้ออกมาบอกข่าวที่ (เริ่มจะดี) ว่าตัวเลขการส่งออกของไทยดีที่สุดในรอบ 6 ปี โตถึง 2.36 แสนล้านเหรียญ เติบโตไป 9.9%  ในส่วนของภาคท่องเที่ยว ก็ปรากฏว่า ปีที่แล้ว (2561) เติบโตขึ้นราว 8.7 % มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนไทยประมาณ 35.34 ล้านคน (เทียบราวครึ่งหนึ่งของประชากรไทย)

ยังไม่รวมตัวเลขการลงทุนของภาครัฐที่อัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเมกะโปรเจค และโครงการที่พุ่งตรงไปยังผู้มีรายได้น้อย ส่วนตลาดหุ้นของไทยก็เขียวสดใสซาบซ่าพุ่งทะยานด้วยเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

ด้วยตัวเลขสัญญาณบวกหลายตัวขนาดนี้  ทำให้ภาพเศรษฐกิจไทยน่าจะดีใช่ไหม? แต่นักธุรกิจภาค SME หลายท่านยังบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดีต่อเนื่องยาวนาน  กิจการไปลำบาก จนหลายรายมีอันต้องพับฐานลงไป  เหตุก็มีอยู่หลายปัจจัยที่น่าสนใจ ซึ่งเราขอสรุปเป็น 3 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

1. เกิดจากการที่ผู้ประกอบการเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สดใสนักต่อเนื่องกันมานาน จนทำให้กระสุนดินดำที่มีอยู่ไม่มากอยู่แล้ว ยิ่งร่อยหรอลงไปจนติดตัวแดงขาดทุนต่อเนื่อง ยิ่งกู้เงินมาโป๊ะก็ไม่พอ แถมด้วยดอกเบี้ยพัลวัน

2. เงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจะค่อยๆ หมุนเวียนจากธุรกิจหนึ่งไปสู่อีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคเศรษฐกิจที่ได้รับการกระตุ้นเติบโต จะได้รับอานิสงค์ก่อน ทำให้รับรู้ได้ก่อนและรวดเร็วกว่า

3. ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล การขยายตัวของคู่แข่งรายใหญ่ ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น ธุรกิจทีวี หนังสือ นิตยสาร ร้านค้าของชำ ร้านวีซีดี ร้านอินเตอร์เน็ต ตลาดสด เป็นต้น

จากปัจจัยที่หลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกกันว่า Disrupt คือ ต้องปรับตัวให้เร็ว ตัดใจให้ไว เนื่องจากโลกยุคใหม่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และต้องเรียนรู้ตลอดเวลา หลายกิจการปรับตัวไม่ได้  ปรับไม่ทัน  แต่ไม่อยากปิดตัวลง ก็มักดิ้นหาทางออกด้วยการขายกิจการบางส่วนหรือทั้งหมดออกไป ให้กิจการขนาดใหญ่ซื้อไปประกอบร่างกับธุรกิจเดิมให้แข็งแกร่งกว่าเดิม

ซึ่งในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีการเปลี่ยนมือของกิจการที่มากกว่าปกติ  เพราะเถ้าแก่กิจการเดิมไม่สามารถทนต่อการขาดทุน หรือขยายกิจการท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างหนักนี้ไม่ได้ แรงกดดันนี้ทำให้ แบรนด์ดัง กิจการดีที่เคยมีชื่อเสียง เปลี่ยนไปอยู่ใต้สังกัดบริษัทกลุ่มทุนใหญ่

ฉะนั้น หากไม่อยากปิดตัวลงต้องรีบปรับตัวให้เร็วตั้งแต่ตอนนี้ โดยเริ่มจากการหันมาสำรวจว่ากิจการท่านเป็นอย่างไร และคิดต่อไปว่าอนาคตกิจการของเราจะยังคงมีความต้านทานความเปลี่ยนแปลงได้อีกนานแค่ไหน รวมถึงต้องคิดหาช่องทางจำหน่ายใหม่ หรืออาจต้องเปลี่ยนรูปธุรกิจกันเลยทีเดียว

ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ทำธุรกิจยุคนี้ต้องเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ตลอดเวลา เพราะความสำเร็จในอดีตไม่สามารถการันตีอนาคตได้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน คนเปลี่ยน ธุรกิจคุณก็ต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน

 

 

บทความโดย

อาจารย์ จิรภัทร สำเภาจันทร์
– กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท็อป บิสสิเนส คอนซัลแทนท์ แอนด์ แมนเนจเมนท์จำกัด
– ผู้บุกเบิกแฟรนไชส์ร้านสารพัดบริการรายแรกของไทย
– ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน กลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ ค้าปลีก

TOP BUSINESS
Credit : สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ / https://www.flathailand.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

สอบถามข้อมูล